วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ศิลป์บำบัด "มหัศจรรย์ศิลป์บำบัด เหนือขีดจำกัดทางร่างกาย" ณ โรงพยาบาลศิริราช




ความมหัศจรรย์ของศิลปะบำบัดนั้นได้รับการพิสูจน์ให้เห็น โดยผ่านการทำกิจกรรมศิลป์บำบัดร่วมกับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดในการขยับร่างกายได้เพียงบางส่วน รวมทั้งคณะแพทย์ และ พยาบาล ณ โรงพยาบาลศิริราช อารมณ์ที่ผ่อนคลายจากการท่องเที่ยวไปในโลกจินตนาการ ถูกแสดงออกผ่านทางกระดาษ พู่กัน และ สีน้ำ โดยมีสื่อนำประสบการณ์ สัมผัสทางด้าน เสียงผ่านดนตรีกู่ฉิน บทเพลงสุนทราภรณ์ และ ดนตรีเบาๆ ผสาน กับผัสสะการรับรส และ กลินผ่านการจิบน้ำผลไม้รวม และ สัมผัสทางการมองผ่านการใช้ สื่อธรรมชาติ ดอกไม้และใบไม้ ทำให้ช่วงเวลาในแต่ละหนึ่งวันที่ยาวนานกับการวิตกกังวลถึงข้อจำกัดทางด้านร่างกายนั้นถูกปิดไปชั่วคราว เกือบราวสองชั่วโมงที่ผ่านไปในการทำกิจกรรมศิลป์บำบัดนั้น ถูกทำให้เพลิดเพลินไปในการใช้จิตท่องเที่ยวไปในโลกแห่งจินตนาการและความรู้สึกที่เพลิดเพลิน สงบเป็นสมาธิ และบวกกับสุนทรียทางด้านอารมณ์ การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน สิ่งต่างๆเหล่านี้ได้รับการแสดงออกผ่านทางสีหน้า ท่าทาง และ เสียงหัวเราะภายในห้องทำกิจกรรมนั้น จนผู้เข้าร่วมรู้สึกว่าเวลาแห่งความสุขนั้นช่างสั้นเหลือเกิน

วันพุธที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ศิลป์บำบัด "หนูไม่ป่วย" ณ หอผู้ป่วยเด็กมะเร็งเรื้อรังโรงพยาบาลรามา

จากการทำศิลป์บำบัดกับ ผู้ป่วยเด็กมะเร็งเรื้อรังที่โรงพยาบาลรามา แล้วทำให้ได้บทสรุปจากมุมมองของเด็กๆ ว่าโรคภัยไข้เจ็บไม่ได้ทำให้เขารู้สึกป่วย ความเพลิดเพลินขณะทำศิลปะนั้นแสดงออกถึงความสมดุลภายในจิตใจของเขา คงเป็นเพียงแค่สภาพสมดุลทางร่างกายที่ผิดปกติไปจากการชี้วัดทางการแพทย์ หรือเป็นแต่เพียงความกังวลของผู้ใหญ่ที่ทำให้โรคภัยดูจะเลวร้ายลงไป หนึ่งในกิจกรรมจำนวนสิบครั้งของการปฏิบัติการได้ให้เด็กวาดภาพที่สื่อถึง พลังลบ ความเจ็บปวด แต่ไม่มีใครสามารถวาดได้ แสดงว่าความเจ็บป่วยนั้นอาจเป็นเพียงแค่ความรู้สึกที่ไม่ได้มีอยู่จริงภายในจิตใจของเด็กๆ จึงไม่มีใครสามารถแสดงออกมาได้ แต่จินตนาการในการวาดรูปอื่นๆ นั้นเด็กๆ สามารถถ่ายทอดสะท้อนออกมาได้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว

ศิลป์บำบัด"พลังลบที่ถูกกลบด้วยพลังบวก" ณ ศูนย์มะเร็งชลบุรี







โดยไม่รู้ตัวเราอาจไม่มีวิธีใดที่จะรู้จักกับจิตใจตัวเองได้ดีเพียงพอ ว่าโดยลึกๆแล้วภายในจิตใต้สำนึกของเรานั้นยังมีพลังทางด้านลบที่ถูกเก็บกักเอาไว้อยู่ และอีกทั้งยังไม่รู้จะหาวิธีใดที่จะจัดการกับพลังทางด้านลบนั้น แท้จริงแล้วพลังด้านในนั้นสามารถถูกเปิดออกได้ผ่านขบวนการทำศิลปะ โดยขบวนการศิลป์บำบัดนี้ช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถหาวิธีที่จะแสดงออกถึงพลังทางด้านลบนั้น และ ค้นหาพลังทางด้านบวกที่มีอยู่ในตัวเราทุกๆคน และผู้คนที่อยู่รอบๆตัวเรา มาแลกเปลี่ยนแบ่งปันถ่ายทอดซึ่งกันและกัน ทำให้เห็นว่าใช่แต่จะมีพลังทางด้านลบอย่างเดียวที่เป็นพลังผลักดันในการดำเนินชีวิต แต่กลับเห็นว่ายังมีพลังทั้งทางด้านบวกและลบ หรือแม้แต่พลังที่ไม่เป็นทั้งบวกและลบ อยู่ในตัวเราทุกๆคน เพียงแต่เราจะยอมให้พลังด้านใดเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตเรา

ศิลป์บำบัด "ศิลปะบำบัดได้จริงหรือ?" ณ ศูนย์มะเร็งชลบุรี








มีเสียง เสียงหนึ่งของพยาบาลที่บอกออกมาก่อนเริ่มทำกิจกรรมว่า "ไม่เชื่อว่าศิลปะสามารถรักษาโรคได้" แต่หลังผ่านกระบวนการทำศิลปะร่วมกับทาง artfield พี่คนนั้นก็เปลี่ยนใจว่า ศิลปะช่วยให้ความเจ็บป่วยทางกายหายได้จริง ไม่ใช่เป็นเพียงแค่การมองเห็นทางรูปกาย แต่เป็นมุมมองของผู้ทำเองที่เกิดจากการทำศิลปะว่า ความป่วยไข้ที่เกิดขึ้นทางกายนั้นแท้จริงแล้วมีจุดเริ่มต้นมาจากจิตใจ และศิลปะก็เป็นสื่อที่สะท้อนได้เป็นอย่างดีถึงภายในจิตใจของผู้ทำศิลปะนั้น ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจว่าทำไมศิลปะถึงรักษาโรคได้จริง ไม่เป็นเพียงแค่การรักษาโรคที่เกิดขึ้นมาแล้วเท่านั้น แต่ยังเป็นการป้องกันไม่ให้โรคนั้นเกิดขึ้นและลุกลามต่อไปได้ เปรียบเสมือนการแก้ที่ต้นเหตุแห่งโรคนั้นจริงๆ

วันศุกร์ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2552

ศิลป์บำบัด ที่ศูนย์สิรินธรฯ, There is no health without mental health




ศิลปะบำบัดและดนตรีบำบัดเป็นการผสมผสานองค์ประกอบที่สามารถสร้างพื้นที่ ที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกถึงอารมณ์ที่ถูกเก็บเอาไว้ในยามเจ็บป่วย จากการทำworkshopครั้งนี้ ทำให้เกิดการเรียนรู้ว่าเมื่อคนเราได้เข้าไปสัมผัสกับศิลปะ ณ ช่วงเวลาหนึ่งนั้น เราสามารถก้าวข้ามผ่านความเจ็บป่วยทางกายได้
ในกิจกรรมนี้มีการใช้ดนตรีกู่ฉินซึ่งเป็นดนตรีที่ให้อารมณ์ความรู้สึกสะท้อนถึงธรรมชาติ สามารถส่งผลต่อการควบคุมจิตใจในการทำสมาธิได้ดี และส่งเสริมกระบวนการศิลปะที่สอดคล้องไปในที่ว่างได้อย่างกลมเกลียวและกลมกลืน

ศิลป์บำบัด "เริ่มที่เรา" ศูนย์มะเร็งวชิราลงกรณ์ ธัญบุรี





การบำบัดรักษาที่เริ่มจากตนเองก่อน ถือเป็นการบำบัดรักษาที่ยั่งยืน การจัด workshop ครั้งนี้เป็นการได้ร่วมงานกับกลุ่มพยาบาล ที่เปี่ยมไปด้วยพลังและศักยภาพในการดูแล รักษา ต่อผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลรักษาทั้งทางด้านร่างกายและ ที่สำคัญยิ่งคือจิตใจ การได้ลงมือทำจริง โดยการใช้สื่อศิลปะที่เหมาะสม ในพื้นที่ที่ผ่อนคลาย เป็นข้อพิสูจน์ยืนยันว่าศิลปะมีศักยภาพในการรักษาผู้ที่เปิดใจรับด้วยความอ่อนโยน