วันอังคารที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ศิลปะในโรงยิม ศิลปะบำบัดเพื่อข้าราชกาลพลเรือน สำนักงาน กพ.






ออกกำลังกายกันมาเยอะ ลองมาออกกำลังใจกันดูบ้าง งานนี้ได้มีโอกาสพบผู้ใหญ่ใจดีหลายท่าน ทั้งยังมีมุมมองทางด้านศิลปะที่หาตัวจับได้ยาก ทำงานกันมาตั้งหลายปี พึ่งจะได้มีโอกาสเห็นมุมมองแบบ สยาบสบาย ผ่อนคลาย รวมถึงเรื่องราวที่เกือบลืมเลือน ถ้าไม่มีโอกาสได้พูดถึง วาดถึง ก็วันนี้แหละ




วันพฤหัสบดีที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2553

The World Hospice and Palliative Care Day at Bangkok Cancer Hospital




We are each of us angle with one wing,
and we can only fly
by embrancing each other...........









วันอังคารที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553

โครงการศิลปะบำบัดเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง และโรคเรื้อรัง คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 22-24 กันยายน 2553











โครงการศิลปะบำบัดเพื่อผู้ป่วยมะเร็ง และโรคเรื้อรัง คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 22-24 กันยายน 2553









ขอศิลปะ ดูแลคุณ











นักศึกษาพยาบาลรามา กับการเปิดมุมองแบบศิลป์ ศิลป์





พยาบาลเป็นอาชีพแห่งการรวมของศาสตร์และศิลป์ หลายหลายครั้ง ระบบการศึกษาอาจทำให้เรามองโลกเพียงด้านเดียว หรือ กรอบแห่งมุมมองที่ถูกสร้างขึ้น และเมื่อรู้ตัวอีกที กรอบนั้น ได้กลายเป็นเรา เป็นฉันเป็นเธอ การปลูกฝังแง่คิดแห่งศิลปะบำบัด หรือการรู้จักตัวตนอีกแง่มุมแห่งสีสัน รูปทรงนี้เป็นเพียงอีกหนึ่ง คาบวิชา ที่นักศึกษา อนาคตพยาบาล ได้เปิดมุมอง ความคิดความรู้สึก เพื่อเป็นประโยชน์ต่อวิชาชีพ ในวันนี้ และวันหน้า


วันพฤหัสบดีที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2553

Think Positive at Kirimaya





"การเป็นมะเร็งอาจจะเป็นสิ่งดีก็ได้ เพราะมันทำให้เรารู้จักคุณค่าของการใช้ชีวิตที่เหลืออยู่"
หนึ่งในผู้เข้าร่วม



วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันเช้าสดใส ในโรงพยาบาล Art Therapy Session at Bangkok Hospital





ศิลปะนอกจากจะทำให้เรามีความสุข สดใสแล้วยังทำให้เราก้าวพ้น ขอบเขตแห่งฉัน เธอ ขอบเขตแห่งคำจำกัดเรื่องสุขภาพ จินตนาการ เพศ และ วัย เช้าวันอาทิตย์ที่สดใสที่ครอบครัวได้มาทำศิลปะกันในโรงพยาบาล ช่างฟังดูแล้วขัด แต่ศิลปะบำบัดก็ทำเราก้าวข้ามข้อจำกัดและความหมายของโรงพยาบาลที่เปลี่ยนไป




วันอังคารที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

รักษามะเร็งด้วย ศิลปะ







ความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมโครงการ 30 ชม. แห่งการบำบัด ณ สถาบันมะเร็ง
จาก 74 แบบสอบถาม
100% รู้สึกมีสุขภาพดีขั้นหลังเข้าร่วมกิจกรรม
100% คิดว่าศิลปะสามารถรักษาอาการทางกายได้
99% รู้สึกชอบกิจกรรมในแต่ละครั้ง
ศิลปะบำบัด คือ
พลังอย่างหนึ่งของชีวิต
ความสุข
การใช้ศิลปะกับการรักษาโรค มีผลด้านจิตใจ
การใช้ศิลปะในการรักษา
ดนตรี วาดภาพ
วาดภาพ ดนตรี
หายเจ็บป่วย
ยาวิเศษ
ผ่อนคลาย ฝึกกำลังใจ
การนำกิจกรรมด้านศิลปะ ไม่ว่าจะวาดรูป, ร้องเพลง หรืออื่นๆ มาทำให้ผ่อนคลายจากโรค
ทำให้คลายเครียด และมีความสุข
____
เป็นการจัดกิจกรรมที่ดี เพราะผู้ป่วยสุขภาพจิตค่อนข้างแย่ แต่การจัดกิจกรรมเช่นนี้ ทำให้ผู้ป่วยสุขภาพจิตดีขึ้น
ขอขอบคุณที่ทำให้ชีวิตสดชื่น
ได้บอกความรู้สึกต่างๆในตัวตนของเรา อยากให้จัดบ่อยๆ
อยากให้มีอีกบ่อยๆ
ควรจัดเป็นประจำ
อยากให้มีโครงการต่อเนื่อง
ควรจัดกิจกรรมอย่างนี้อีก
ก็น่าจะมีต่อๆไป ชอบมาก
อยากให้ทำกิจกรรมอย่างนี้ยิ่งๆขึ้นไป
ชอบทีมงานค่ะ เป็นกันเอง
ขอขอบคุณผู้จัดกิจกรรมมากม๊ากค่ะ
ขอให้ทำโครงการแบบนี้เรื่อยๆไป
ขอให้จัดอีก
ทีมงานจัดกิจกรรมได้ดี ดูจริงใจ ทำให้เกิดกำลังใจ
_______
คุณหน่อย: ภูมิใจนะ ดีใจและก็ได้มีความสุขมากเลย การที่เราเคยเครียดกับที่เราเป็นแบบนี้...ภูมิใจมาก ชอบมาก กำลังใจมาเต็มร้อย ชอบมากเลยทุกๆกิจกรรม ได้เดินจงกรม ชอบมาก มันมีสมาธิมากขึ้น
คุณเพ็ญ: ก็เคยศึกษามาบ้างว่าการใช้ศิลปะบำบัดเนี่ยมันเป็นยังไง บางทีก็เกิดความเครียด เพราะว่าเราเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับชีวิตมาก พอเราได้มาทำแบบนี้ มันก็ช่วยได้มาก เพียงแต่ว่าเวลามันจำกัด... อยากจะทำอะไรก็ระบาย ระบายออกไปเลอะๆ ไอ้สิ่งที่มันติดค้างอยู่ในใจก็ช่วยให้ออกมา มันก็มีส่วนดีขึ้น อันนี้ถือว่าเป็นการบำบัดทางด้านจิตใจ ในส่วนหนึ่ง... แล้วปกติก็เป็นคนที่ชอบฟังเพลง เพลงบรรเลงอะไรอย่างงี้ ดนตรีก็เป็นศิลปะสาขานึง อันนี้ก็เพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก (ศิลปะ) ช่วยได้หลายอย่าง ถ้าสาธยายก็คงไม่หมดง่ายๆ ช่วยให้เราอารมณ์ดีขึ้น จิตใจดีขึ้น ผ่อนคลาย มันก็มีผลต่อสุขภาพจิตของเรา ถ้าสุขภาพจิตดี ร่างกายของเราก็ดีด้วย ก็ขอฝากไว้ ขอบคุณที่ได้มาร่วมกิจกรรม
คุณวิ: เป็นคนไม่ชอบร้องเพลงแต่ชอบฟัง ไม่ชอบวาดรูปแต่ชอบดูรูป เป็นคนเล่นกีฬา ไม่อยากบอกว่าเป็นมะเร็งมา 4 รอบ นี่เป็นครั้งที่ 4 หลายคนสงสัยว่าทำไมสู้อยู่ได้ ให้คีโมมา 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แต่สามารถอยู่ได้เพราะใช้บรรดาพวกนี้ ไม่ชอบวาดรูปแต่ชอบทำดอกไม้ ขณะที่ทำดอกไม้ มันใช้สมาธิ ไม่เคยมีอาการปวดจากการเป็นมะเร็ง ให้คีโมทุกครั้ง ไม่เคยคลื่นไส้ อาเจียน แต่ทุกครั้งที่ปวด ก็จะหาอะไรมานั่งทำ เช่นทุกวันเนี้ยเอาเหรียญบาทมานั่งพับ สำหรับโครงการ อันเนี้ย คือการที่สู้มาได้ แต่ถามว่าจิตตกมั้ย ที่เป็นมะเร็ง ก็จิตตก แต่ใครก็ช่วยเราไม่ได้ถ้าเราไม่ช่วยตัวเอง
คุณตุ๊กตา (สมลักษณ์): การเคลื่อนไหวของร่างกายเรา ถ้าอยู่เฉยๆ มันคงไม่ดีแน่ ก็พยายามจะมาทุกครั้ง มาออกกำลังกาย พูดกันง่ายๆ แล้วบางอย่างมาเจอเพื่อนฝูง มันลืมความทุกข์นะคะ มีความสุขค่ะ
คุณเบ็น (นักศึกษาแพทย์): ต้องเรียนอีก 6 ปีถึงจะเป็นหมอได้ ที่มาร่วมกิจกรรมฯก็เพราะอยากรู้ว่า Would it be rewarding? (มันจะคุ้มค่าไหม) ก็พบว่า อยากให้คนดีขึ้น และอยากรักษาคน ถ้ารักษาไม่ได้ ก็ยังอยากให้คน(ผู้ป่วย) มีความสุข คือ ทำสิ่งที่เราทำได้
คุณน้อย: จริงๆ ก็ เชื่อในเรื่องของศิลปะ และงานที่ทำประจำก็คือ ทำ Patch work (ปักผ้า) เข้าใจว่าศิลปะ คือ สมาธิที่ดีที่สุด ยิ่งงาน Patch work (ปักผ้า) ทำไปแล้วยิ่งฟังเพลงไปด้วยเนี่ย ถ้าทำไป แล้วใจเราอยู่ที่ผลงานของเรา ที่ผ้า ชิ้นงาน เราหยิบผ้ามาสารพัดสี ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าออกมาจะสวย หรือไม่สวย แต่ก็สรุปได้ว่า ไม่ว่าชิ้นไหน พอเอาผ้ามาประกอบกัน ยังไงก็สวย พอเสร็จออกมามันก็สวยหมด มันก็เป็นสมาธิที่ดี ดีมากๆเลย ก็ดีใจที่เราค้นพบสมาธิ คือ ความสุขอย่างนึง อันนี้ก็คงจะเป็นทางหนึ่งเหมือนกัน
คุณต๋อย (พยาบาล): ดีใจที่ได้มาศิลปะบำบัด ได้เห็นคนไข้ยิ้ม หัวเราะออกมา เราทำงานก็มีความรู้สึกว่า มีความสุขมากขึ้น... อยากจะบอกให้คนไข้สู้ๆค่ะ ต๋อยก็มีปัญหา ปัญหาของพยาบาลกับคนไข้อาจจะไม่เหมือนกัน แต่ถ้าเราสู้ อย่างหนูเจอป้าวิครั้งแรกเนี่ย ไม่เคยสัมผัสป้าเค้า ไม่เคยทราบว่าเค้าเป็นมากี่ครั้ง เราเห็นเค้าสู้ เราเหนื่อยแค่ไหน เราก็สู้ พอเห็นเค้าสู้ พยาบาลก็สู้ขาดใจเหมือนกัน
คุณมะลิ: รู้สึกมีความสุข และก็สดชื่นขึ้นมากเลยค่ะ
คุณแอ๊ว: รู้สึกดีใจมาก ที่ได้มาพบเพื่อนๆ ได้มาเข้าโครงการฯ หมดความกังวล ได้มาพบเพื่อนๆ หลายท่าน เพื่อนใหม่หลายคน
คุณปิ๋ว : ป้าเองก็เป็นพยาบาลที่เกษียณแล้วมาเป็นจิตอาสา ก็อยากให้กำลังใจคนไข้ทุกคน ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะเหมือนกัน แต่ทุกสิ่งทุกอย่างเราต้องเข้มแข็ง คุมสติให้ได้ ถ้าเผื่อเราจิตตกปุ๊บ เราก็ตั้งสติใหม่ ต้องยิ้มสู้ ต้องยิ้มสู้ลูกเดียว สร้างพลังให้ตัวเอง กิจกรรมทั้งหลาย ก็เพื่อที่จะสร้าง ให้คนมีภูมิคุ้มกันที่ดี ถ้าเรามีภูมิคุ้มกันที่ดี โรคแทรกซ้อนก็เข้ามายาก เพราะบางคนที่ผ่านมาหลายอย่างหลายครั้ง มันจะมาช่วงที่เราเครียด บางทีจิตตก ไม่ว่าพยาบาลเอย คนไข้ก็เหมือนกัน ถ้าเผื่อว่ามีปัญหา ก็พูดออกมาได้นะคะ อย่าไปเก็บอยู่คนเดียว อย่างได้ระบาย(ในกิจกรรม) อย่างนี้ออกมา มันก็สื่อได้หลายอย่าง อย่างที่นี้เค้ามีดนตรีบำบัด ทุกวันพฤหัส เราก็ลงไปร่วม ไปตบมือ ไปให้จังหวะกับเค้า เราก็มีความสุข เราคิดในแง่ที่บวกๆไว้ ถ้าเผื่อเรามีปัญหา ขอให้พูดขอให้ถาม อย่าเก็บไว้คนเดียว บางทีสิ่งที่เราคิด อาจจะไม่ใช่ ถ้าข้องใจไม่อยากให้เก็บ อยากให้คุย ทุกอย่างก็จะดีขึ้น...เมื่อเราทำกิจกรรมกันมาแล้ว เราก็รู้ ปากกา, ดินสอ เราก็ทำได้ หยิบขึ้นมา ระบายไปเถอะ เขียนโน่นเขียนนี่ เดี๋ยวเราก็สดชื่นแล้ว เดี๋ยวก็ลืม ก็อยากจะฝากให้ทุกคนนะคะ มีทุกข์มีสุขอะไรก็ เหมือนกันทุกคนแหละ มันเป็นธรรมชาติ อยากให้มีสติกัน เป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ







วันอังคารที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ชมรมจิตเวชเด็กและวัยรุ่นแห่งประเทศไทย






ศิลปะเป็นภาษาที่ dynamic จากการอบรมครั้งนี้สิ่งที่นำเสนออาจไม่ใช่เรื่องที่ใหม่จนไกลตัว เพราะผู้สร้างภาษา ผู้คิดคนภาษากลับไม่ใช่ใครอื่นไกล นอกจากตัวศิลปินเอง การ empowerความเป็นศิลปินที่ใช่จากตัวตน แต่จากการเข้าใจในตัวตน ของผู้สร้างชิ้นงาน ผู้บำบัด และผู้รักษา ที่ไม่มีเส้นแบ่งใดๆบนโลกแห่งศิลปะ เปรียบเสมือนเป็นการเดินทางร่วมกัน การจะเข้าถึงจิตใจของผู้รับการบำบัดที่เป็นเด็กหรือวัยรุ่น นั้นคงไม่มีวิธีใดที่จะดีไปกว่าการย้อนกลับไปสู่ความเป็นเด็กหรือวัยรุ่นในตัวของผู้บำบัดเอง ศิลปะเป็นเหมือนเส้นทางเดินให้ผู้บำบัด ร่วมเดินทางไปบนเส้นทางที่ บางคนอาจเคยเดินทางผ่านมาแล้ว บางคนอาจยังไม่เคย เพื่อสามารถที่จะ แนะนำ แบ่งปัน และเข้าใจ ในผู้ที่เราร่วมเดินทางมาด้วยกัน หรือ เส้นทางที่ตัวเองเคยเดินผ่านมาแล้วได้เป็นอย่างดี