วันอังคารที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2553

32 hours Art Therapy Sessions (part 2)





ความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมโครงการ

ศิลปะ ช่วยได้อย่างไร และประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการ

นางอัญชลี สมโสภณ (พยาบาล โครงการนันทนาการผู้ป่วยเด็ก)
ป้าอุ๊รู้สึกว่ามันเป็นโครงการที่ดีมาก แล้วก็อยากให้มันมีสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นในกลุ่มของเด็กโรงพยาบาลมานานแล้วนะ แต่กว่าจะเกิดขึ้นได้ มันต้องใช้แรงมากทีเดียวนะ กว่าจะมีพี่ มีทีมขึ้นมานะ แล้ววันนี้ป้าอุ๊มีความสุขมาก เป็นความสุขที่เห็นจากเด็กๆ ได้รับอะไรที่พิเศษกว่าทุกๆ โดยเฉพาะสถานที่แห่งนี้ (พื้นที่นิทรรศการ ณ หอศิลปวัฒนธรรมกรุงเทพ) มันเป็นตัวกระตุ้น ที่รู้สึกว่าเห็นแตกต่างกันชัดเจนน่ะ กับชีวิตประจำวันที่ผ่านมา แล้วก็ลองได้ศึกษากับคนรอบข้างที่ผ่านเข้ามา เค้ารู้สึกดีกับเรามากเลยนะที่เราได้เห็นเด็กๆ มีความสุข เราไม่ได้สุขแค่คนเดียวนะ เรายังเอาความสุขไปเผื่อให้กับคนข้างๆได้อีกทุกๆคนเลย ก็คิดว่าถ้าโครงการนี้ประสบความสำเร็จเช่นนี้ เราก็จะพยายามให้มันเกิดขึ้นทุกๆปีนะ
พี่พยาบาล
รู้สึกว่าประทับใจมาก ได้เห็นเด็กๆหลายๆคนมีความสุข โดยเฉพาะเด็กที่เจ็บป่วย แล้วเค้าก็มีบรรยากาศเดิมๆของเค้าอยู่ แล้วเค้าก็ ได้ออกมาเปิดหูเปิดตา แล้วก็อย่างน้อยที่สุด ก็ได้เพื่อนในกลุ่ม แล้วก็ได้มีบรรยากาศสนุกสนาน ได้บรรยากาศที่เปลี่ยนแปลงไป แล้วก็ โดยเฉพาะ ที่มาในวันนี้ ไม่ใช่เฉพาะเด็ก ผู้ใหญ่ก็คงจะรู้สึกดีๆด้วย เพราะเราได้มาเห็นกิจกรรมอะไรเยอะแยะ แล้วเด็กๆเค้าก็ชอบงานพวกนี้อยู่แล้ว พอได้มาเห็น ก็จะเป็นแรงกระตุ้น ทำให้เค้าเกิดความคิดที่ อยากที่จะมีความสุขต่อไปอีกนานๆ เพราะฉะนั้นเค้าก็จะต้องกลับไปดูแลรักษาตัวเค้าให้ดีขึ้น ให้สมกับที่โลกภายนอก ที่มีความสดชื่น รื่นรมย์ อย่างนี้ตลอดไปค่ะ

ศิลปินผู้แสดงงานนิทรรศการ “ศิลปะบนผนัง For: Wall Painting Showcase หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ศิลปะ มันไม่จำเป็นต้องเป็นสีๆ ก็ได้ เป็นอะไรที่เรานึกคิดขึ้นมา เหมือนสมองเรา ความคิดเรา มันเหมือน time machineถ้าเกิดเราไปทะเล เราปิดตาปุ๊บ เราก็ไปทะเลได้ มันก็คือศิลปะที่น้องๆแต่ละคนวาดออกมา ก็เลยเห็นว่าพอดีน้องเค้าวาดสามเหลี่ยมเงี้ย มันก็น่าสนใจ เพราะว่า สิ่งที่เราทำ ถึงแม้มันจะไม่ใช่งานผม แต่ก็ inspire (สร้างแรงบันดาลใจ)ให้น้องๆ อยากจะวาด อยากจะอะไร คือต่อยอดความคิดแต่ละคน ขึ้นมาได้เงี้ย ซึ่งมันตื่นเต้นดีสำหรับเราที่เป็นผู้ใหญ่ ที่เห็นอะไรแบบนี้

ผู้เข้าชมงานนิทรรศการ “ศิลปะบนผนัง For: Wall Painting Showcase หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ได้ความสุขมากเลย นะคะ มาได้เห็นเด็กๆ ได้มาเรียนพวกนี้ แล้วก็ เด็กเค้ามีความสุข พอเห็นเด็กเค้ามีความสุขอย่างนี้ เราก็มีความสุข คือใช้สถานที่แบบนี้ ทำประโยชน์อะไร ได้เยอะ ซึ่งวันนี้มาแล้ว ทำให้ตัวดิฉันเองก็เพิ่งจะมีความรู้ว่าเดี๋ยวนี้โรงพยาบาลเค้าก็มีแผนกที่ว่าบำบัด โดยใช้วิธีศิลปะนี้มาช่วย อันนี้ดีทีเดียวเลย ดีใจค่ะ ดีใจอย่างมากเลย มีความสุขมากเลยวันนี้

เจนพิจารณ์ (เอ้ก) นักดนตรีบำบัด ARTFIELD
ได้ทำให้เค้ามีความสุข แล้วผมก็มีความสุขไปด้วย คือ พวกที่เรียนดนตรีมาด้วยกัน ก็จะมีความสุขอยู่แล้วกับดนตรีที่ตัวเองเล่น ก็อยากจะแบ่งปันความสุขไปให้ผู้อื่น ก็คือว่าเวลาเรามีความสุขแล้วเราต้องแบ่งปันความสุขไปให้คนอื่นด้วย อย่าเก็บไว้คนเดียว ต้องลอง แล้วเราก็จะรู้สึกถึงความสุขที่แท้จริงที่เราได้ให้ผู้อื่น

หมี นักดนตรีบำบัด ARTFIELD
(เห็นน้องๆฟังดนตรีของเราแล้วรู้สึกยังไง) รู้สึกเหมือนเค้าเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ได้ไม่สบาย หรือ อ่อนแออะไรเลย ต้องลองครับ


32 hours Art Therapy Session for Cancer Child Patients at Rama






ศิลปะ ช่วยได้อย่างไร และประสบการณ์จากการเข้าร่วมโครงการ
แน็ต : ถ้าเพื่อนๆคนไหนไม่สบาย ก็อยากให้ลองทำดูค่ะ
เนเน่ : ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้
เชวง : Yes!! ช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น ไม่เครียด มีสมาธิ ก็ดีใจ ที่ได้มา
น้องเพ็ชร : หนุกหนาน (เมื่อเช้าเจ็บขา) ยังเจ็บอยู่เลยครับ แต่ไม่คิด กลัวภาพไม่สวย
เฮงๆ : รู้สึกสนุกครับ มีความสุขที่ได้เจอเพื่อนๆ มีเพื่อนเยอะ มีสุขภาพดีขึ้น แข็งแรง ขึ้น ครับ อยากให้มีบ่อยๆ สนุกมากๆ ก็อยากให้เพื่อนๆทุกคน มาใช้ศิลปะบำบัด

น้องลูกน้ำ : มีความสุขและสนุกสนาน อยากให้มีบ่อยๆ
สไปร์ท : สนุกสุดๆเลยครับ
มะปราง : สนุกและมีความสุขมากค่ะ
ฮาบีบะห์ : อยากให้มีอย่างนี้อีก
มิ้งค์ : มีความสุขมากเลยค่ะ เพราะสามารถระบายและแสดงความรู้สึกของตนเองได้ ดีใจมาก ที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมนี้ พี่ๆทุกคนน่ารักมากเลยคร้า ถ้าเกิดเหงาหรือเศร้าอะไรอย่างเงี้ย ก็สามารถที่จะระบายโดยใช้ศิลปะ มาแสดงออกถึงความรู้สึกของเราได้
ใบโพธิ์ : ดีมาก อยากจะให้จัดทุกปี
กร : ไม่อยากให้จบครับ
ป่าน : มีความสุข
ปาล์ม : สบายใจสุดๆ พี่ๆน่ารักทุกคนค่ะ

คุณแม่น้องเพ็ชร
จริงๆแล้ว มันมีคุณค่าเยอะเลย จากที่เห็นจากลูกตัวเอง คือ เค้ามีสมาธิขึ้น บางทีในภาพมันสื่อ ในสิ่งที่เค้าวาดออกมา มันทำให้เรารู้บางสิ่งบางอย่างที่เราไม่สามารถ คืออยู่กันทุกวันอย่างเนี้ยเราไม่รู้ แต่พอเค้าวาดออกมา การใช้สี อะไรต่างๆ มันสะท้อนในความรู้สึกของเค้า ให้เราได้รับรู้ได้ ดีใจที่เค้ามีสังคม ได้แสดงออก ได้แสดงความคิดเห็น
คุณแม่น้องเฮงๆ
ศิลปะช่วยได้ค่ะ จิตใจเค้าจะได้เย็นลง จากการที่แต่ก่อนเป็นคนหงุดหงิด ไม่ชอบใจก็จะไม่เอา ก็ไม่เป็นอย่างนั้นแล้วและในบางอย่างเค้าไม่บอกเรา เค้าจะเงียบ ถาม เค้าก็ไม่กล้าบอก อย่างวันนั้นเค้าวาดรูปปลา เราก็รู้ว่าเค้าชอบปลา แล้วตอนนี้เค้ากำลังทำบ่อปลา
(จากการเข้าร่วมโครงการ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างแม่กับน้องเป็นยังไงระหว่างสัปดาห์)
จริงๆมันมีอยู่ แล้ว มันก็ดีขึ้นกว่าเดิม กับเพื่อนๆ เค้าก็ดีขึ้นกว่าเดิม อย่างวันนี้ โอ้โฮ สนุกสนาน กับเพื่อนๆเยอะเลย แบบเล่นกัน จับไม้จับมือกัน ดีขึ้นมาก
คุณแม่น้องลูกน้ำ
กลับไปก็ได้คุยกับเค้าว่า ศิลปะจะช่วยให้เค้ามีอารมณ์ดีขึ้นนะ เพราะเค้ามีภาวะตรงนี้ อารมณ์เค้าจะเปลี่ยนแปลงง่าย ก็บอกว่า ตรงนี้จะช่วยหนูนะลูก เวลาเค้าอารมณ์ดีๆเราจะบอกเค้า พยายามสื่อสารกับเค้าให้ได้มากที่สุดว่า ให้หนู อารมณ์เย็นขึ้น หนูจะได้มาเข้ากิจกรรมกับคนอื่น ได้มาร่วมสังคม เค้าก็เข้าใจมากขึ้น ในช่วงที่กลับไป 4-5วัน อารมณ์ก็ ดีทุกวัน แล้วก็ตั้งใจว่า เมื่อไหร่จะถึงวันที่จะได้มาอีกค่ะ เค้าก็ ดูดีขึ้นในช่วงนั้น
แม่น้องเฟิร์ส
ดีใจที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ทุกกิจกรรม ทุกสัปดาห์ ลูกมีความสุข และรู้สึกว่าบำบัดโรคได้จริงๆ มีความสุขที่มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมดีๆ ขอบคุณทีมงานที่มีโครงการดีๆ ให้เด็กป่วยเรื้อรัง ที่ต้องการกำลังใจมากมาย ในการต่อสู้กับโรคร้ายและการเข้าสังคม เป็นโอกาสดีที่ได้เข้าร่วมโครงการ มีความสุขและประทับใจทุกกิจกรรม ทุกคน
พ่อน้องเฟิร์ส
ก็ดีใจ ที่ลูกได้ใช้ความคิด ทั้งๆที่เค้ามีร่างกายอย่างงี้ และเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้ ดีใจที่ลูกได้ใช้ศิลปะ สามารถปลดปล่อยออกมาได้ว่า ความคิดของเค้าตอนนี้ คือเป็นลักษณะนี้ ผมอยากเอาลูกมาให้มีส่วนร่วมกับสังคมอย่างนี้ ไม่อยากให้เค้าอยู่ในโลกส่วนตัวมากไป ศิลปะช่วย เพราะว่า แทนที่เค้าจะอยู่ในโลกของเค้าที่ว่า ในโรคที่เค้าเป็นอยู่ พอเค้ามาร่วมกับสังคม แล้วเค้ามาใช้ศิลปะ ในการวาดออกมาถึงความรู้สึกของเค้า น่าจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเค้า

นางเชาวนี ติยะบุตร (ผู้ปฏิบัติงานพยาบาล)
ก็เป็นหนแรกที่สัมผัสนะคะ ก็รู้สึกว่า มันมีประโยชน์จริงๆ เด็กเค้าได้แสดงออก ถึงความคิดลึกๆของเค้า ว่าเค้ารู้สึกยังไง จริงๆ ป้าจี๊ดก็ไม่เคยรู้นะ ว่าเด็กจะ มีความรู้สึกอะไร ลึกขนาดนี้ เด็กบางคนที่เค้าอธิบายความเจ็บปวดออกมาได้ มันเป็นอะไรที่ มองแล้ว มันไม่น่าจะเจ็บขนาดนั้น แต่จริงๆ ใจเค้าเจ็บเยอะเนาะ ป้าก็เลยสัมผัสได้ตรงนี้ รู้สึกว่า มันมีค่ามากเลย
(มันช่วยยังไงในแง่การเป็นพยาบาล)
คือ ป้าน่ะเพิ่งมาเข้าใจว่า ร่างกายเนี่ยก็ป่วยอย่างนึง แต่ใจเนี่ย ป่วยกว่าเยอะเลย ป้าก็เลยคิดว่า บำบัดด้วยวิธีนี้ คงจะเป็นการเยียวยาทางใจนะ ในเมื่อใจสบายขึ้น ร่างกายก็จะดีตาม
(ฝากถึงเพื่อนพยาบาล)
ป้าก็อยากให้ผู้ที่อยู่ในวิชาชีพพยาบาล อยากให้รู้ว่า การเจ็บป่วยเนี่ย นอกจากกายที่เรารักษากันแล้ว เราก็น่าจะรักษาใจ เค้าด้วย การพูดหวานๆ สัมผัสเบาๆ เนี่ย ช่วยได้มากเลยล่ะ ไม่ต้องกับศิลปะก็ได้ แค่นี้ก็เป็นศิลปะแล้วล่ะ