วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ศิลป์บำบัดแห่งมิตรภาพ ขอเชิณเข้าร่วมกิจกรรมการบำบัดด้วยศาตร์และศิลป์



กลุ่มศิลปะบำบัด Artfield ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ มูลนิธิมิตรภาพบำบัด (กองทุนนพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์) ในโครงการศิลปะบำบัดต้านมะเร็ง ได้จัดกิจกรรมบำบัดแบบต่อเนื่อง “ศิลป์แห่งมิตรภาพบำบัด ศิลปะบำบัดแบบครอบครัวสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งและโรคเรื้อรัง” จึงขอเชิญชวนผู้ป่วยโรคมะเร็ง/โรคเรื้อรัง และผู้ดูแลใกล้ชิดเข้ารวมกิจกรรม
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1) ใช้กระบวนการทำศิลปะในการบำบัดฟื้นฟูสภาวะจิตใจโดยมีคนไข้เป็นศูนย์กลาง และการใช้กระบวนการทางศิลปะเป็นช่องทางที่จะช่วยบรรเทาทุกขภาวะของผู้ป่วยมะเร็งและโรคเรื้อรังผู้เข้าร่วมโครงการอย่างมีประสิทธิภาพ
2) ศึกษาและพัฒนารูปแบบกิจกรรมศิลปะบำบัดที่เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ป่วยมะเร็งและโรคเรื้อรังในประเทศไทย โดยมุ่งหมายที่จะนำรูปแบบกิจกรรมดังกล่าวไปใช้ในองค์กรสุขภาพภาคีต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อประโยชน์แก่ผู้ป่วย
3) สร้างความเข้าใจ และเตรียมความพร้อมของการดำเนินโครงการศิลปะบำบัดเพื่อผู้ป่วยมะเร็งและโรคเรื้อรังที่จะเกิดขึ้นในแต่ละองค์กร และการพัฒนาได้จริงหลังจากเสร็จสิ้นโครงการนำร่อง
4) เพื่อส่งเสริมทัศนคติแง่บวกอย่างสร้างสรรค์ในการดูแลสุขภาวะกายและใจสู่สังคมโดยกว้างผ่านการเผยแพร่โครงการศิลปะบำบัดต้านมะเร็ง
จำนวนที่รับสมัคร
25คน
วันและเวลา
แบ่งเป็น 3 ครั้ง คือ
1. วันศุกร์ที่ 11 มิถุนายน 2553 เวลา 13.00 – 16.30 น.
2. วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2553 เวลา 13.00 – 16.30 น.
3. วันศุกร์ที่ 25 มิถุนายน 2553 เวลา 13.00 – 16.30 น.
สถานที่
ห้องประชุม 206-207
2 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ชั้น 2 อาคารรวมหน่วยราชการ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพ
คุณสมบัติผู้สมัคร
1. เป็นคนไทย อายุ15 ปีขึ้นไป
2. อยู่ในระยะการรักษาโรคมะเร็ง หรือโรคเรื้อรัง
3. สามารถเข้าร่วมอย่างต่อเนื่องทั้ง 3 ครั้ง
4. สามารถสมัครเป็นคู่ โดยมีความสัมพันธ์แบบ ผู้ป่วยและผู้ดูแลรักษาที่ใกล้ชิด
5. สามารถสื่อสารและดูแลตนเองในช่วงการร่วมกิจกรรม
6. เป็นผู้สนใจศาสตร์การบำบัดรักษาทางเลือก ทางด้านศิลป์บำบัด (Creative Therapy)
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมอบรม
ติดต่อสอบถามรายละเอียดและขอใบสมัครได้ที่ คุณนิภาพร เรื่อเรืองรัตน์ (แจง)
มูลนิธิมิตรภาพบำบัด (กองทุนนพ.สงวน นิตยารัมภ์พวงศ์) ชั้น 2 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อาคารรวมหน่วยราชการ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
โทร 02-141-4253 หรือ email: heart2hear.f@gmail.com

วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

Pain as Art, Art as Pain ,Art Therapy Symposium in 21st Annual Scientific Meeting of Thai Association for the Study of Pain,Royal Cliff,Pattaya







ความปวดเป็นเรื่องที่ subjective ไม่แตกต่างจากศิลปะ ความปวดไม่ใช่มีเพียงมิติเดียวเท่านั้น ความปวดไม่ใช่เรื่องราวของร่างกายเท่านั้น ความปวดมีเรื่องของทัศนะคติ ความรู้สึก อารมณ์ และความสัมพันธ์ อย่างแยกขาดไม่ได้ เมื่อมุมมองของความปวดทางการแพทย์ถูกมอง กว้าง ด้วยการมองผ่านมุมมองแห่งศิลป์ ทำให้การเดินทางระหว่าง เรา ในการค้นหาทางออกแห่งความปวดนั้น เต็มไปด้วยความเข้าใจ การปลดปล่อย การรับฟัง ที่มีสุนทรีย์ และตรงเป้าหมาย มากขึ้น









นิทรรศการ กุมาร Art Therapy โรงพยาบาลศิริราช 30 ชม.แห่งการบำบัดด้วยศิลปะและดนตรี






ข้อมูลหลังเข้าร่วมกิจกรรมศิลป์บำบัดแบบต่อเนื่อง 10 ครั้ง 30 ชั่วโมง
จากแบบสอบถาม 103 ชุด
97% ของผู้เข้าร่วม รู้สึก มีสุขภาพดีขึ้นไหม
89% ของผู้เข้าร่วม หลังเข้าร่วมกิจกรรมคุณมีความสุขมาก
100% ของผู้เข้าร่วม สนใจถ้ามีการจัดครั้งต่อไป
96% ของผู้เข้าร่วม คิดว่าศิลปะช่วยรักษาคนเราให้ดีได้

“โลกแห่งสีสัน โลกแห่งความสนุก
โลกแห่งการเรียนรู้ ศิลเปรอะ โลกแห่งจินตนาการ
เสรีภาพในโลกกว้าง ร่วมกันประคับประคอใจ
ศิลปะไร้ขอบเขต มีสิ่งวิเศษอยู่ในใจ
สี
ลูกแกะในทุ่งกว้าง
สันสันสร้างความฝัน

และจินตนาการ สดใส สดชื่น
ดอกไม้ในเมืองใหญ่
รวมใจสร้างสรรค์ มุ่งมั่นทำความดี ภาพมองเพลิน
รวมพลังกันสร้างความดี”

ป้าแบน:
“ความรัก ความปรารถนาดีต่อเพื่อนร่วมโลก มีคนที่ใช้ศิลปะเชื่อมคนเหงา คนเศร้า ให้เข้มแข็ง มีพลัง มีความสุข เพราะได้เข้าใจตนเอง เข้าใจเพื่อนมนุษย์ผู้อื่น ขอให้ผู้ค้นพบทางเดิน นำผู้ไม่รู้ต่อไปด้วยเทอญ”

พลอย:
“หนูอยากให้ศิลปะบำบัดมีอีกนานๆ ถ้ามีศิลปะบำบัดอีกครั้งหนูจะมาอีก เพราะช่วยให้หนูมีคาวมมั่นใจในตัวเองขึ้นและได้มาสนุกกับเพื่อนที่ไม่รู้จักมาก่อน”

คุณยายน้องพลอย:
“ศิลปะบำบัดช่วยให้เด็กมีช่วงชีวิตที่เก็บความสุข ความทรงจำที่ดีไว้ อย่างน้อยก็ช่วงสั้นๆ ระยะสั้นๆของชีวิตหนึ่ง เราสามารถอ่านความรู้สึกที่เด็กแสดงออกจากงานศิลปะและเก็บไว้อ่านใจและความรู้สึกของเขาได้ ภาพถ่ายที่ได้บันทึกเรื่องราวของการเดินทางนี้จึงเต็มไปด้วยความประทับใจ อารมณ์สุข สนุก ขบขัน และเศร้าลึกๆที่ผู้ใหญ่ควรต้องเรียนรู้ จะได้ช่วยประคับประคองเขาต่อไป”

ภัทร:
“ดีมากครับ ไม่อยากให้จบเลย อยากเดินทางไปให้ไกลที่สุดไม่มีวันสิ้นสุด ไม่อยากให้มีโค้งสุดทายของชีวิต อยากบอกว่ามันทำให้ผมรู้จักสิ่งดีๆมากมายและรู้ว่าการเดินทางต้องมีที่สิ้นสุด มีจุดจบ มีความตาย”

คุณแม่น้องภัทร:
“การได้เข้าร่วมโครงการศิลปะบำบัดคอร์สนี้ นับว่าได้เป็นแม่และลูกคู่หนึ่งที่ที่โชคดีได้รับความกรุณาจากคุณหมอให้เข้าร่วมกิจกรรม ทำให้ได้พบว่าชีวิตทุๆคนมีคุณค่าอย่างมากที่สุด คุณแม่ก็รักลูก ถึงลูกแต่ละคนจะมีร่างกาย มีสุขภาพจิตใจเป็นอย่างไร คำว่าแม่นี้ยิ่งใหญ่มาก สามารถอดทน มุ่งมั่น ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆเพื่อลูกที่เรารักได้ และศิลปะก็ยังเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างแม่กับลูกได้ดีมาก”

คุณแม่น้องเบลล์:
“วันเริ่มต้น ดูความรู้สึกแปลกๆนิดๆ พอต่อมาเรื่อยๆจนถึงความรู้สึกช่วงกลางก็ตอบตัวเองว่า “ดีนะ”คำว่าดีมันมีความหมายลึกซึ้งอย่างบอกไม่ถูก มีโอกาสดีกับทุกคนจริงๆ ขอบคุณมาก ได้ยิ้มตลอด คงจะใจหายนะ แต่ก็ยอมรับได้ กิจกรรมแบบนี้คงมีไม่รู้จบนะคะ”

พี่อร:
“อยากให้จัดกิจกรรมอย่างนี้ให้กับผู้ป่วยเด็กอีกบ่อยๆ เพราะเด็กป่วยทางกายแล้วแต่จิตใจไม่ได้ป่วย จะได้มีกำลังใจอยู่ต่อสู้กับโรคภัยไข้เจ็บต่อไป”

เฟรม:
“ผมไม่สามารถออกมาเป็นคำพูดได้ว่าศิลปะนี้มันสนุกที่สุด”

คุณตาน้องเฟรม:
“อยากให้โครงการนี้มีขึ้นอีกและตลอดไป เป็นการที่ดีต่อการบำบัดให้กับผู้ป่วยและมีกำลังใจต่อสู่ต่อไป ดังนั้นศิลปะบำบัดจึงดีต่อการช่วยรักษาบำบัดต่อผู้ป่วย ขอบคุณครับ”

แบงค์:
“ถ้าความเห็นของผม ผมว่าน่าจะให้มีกิจกรรมแบบนี้อีก เพราะว่าทำแล้วมีความสุข ได้เพื่อนใหม่จะได้ไม่เหงา หลังจากนี้ผมก็คงไม่ได้นอนที่โรงพยาบาลแล้ว คงจะมาตรวจแล้วก็กลับ ไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกมั๊ย แต่ว่านะถึงตัวไม่ได้อยู่ด้วยกันขอแค่ใจของพวกเราสื่อถึงกัน แค่คิดถึงกันก็มีความสุขแล้ว”

ษา:
“วันนี้สนุกมากๆถึงแม่จะไม่มาแต่ก็ยังมีป้าแบนที่รักของษามาแทน ษารักป้าแบนมากที่สุดเลยค่ะ ทุกกิจกรรมที่เราทำกันมาถึงสิบครั้ง ถึงแม้สาจะมาไม่ครบแต่มันสนุกทุกิจกรรมเลย ทั้งยิ้มได้ ทั้งมีความสุขสนุกสนาน ขอบคุณพี่ๆทีมงานทุกคนที่ได้จัดกิจกรรมนี้ขึ้นมา ขอบคุณพี่กชพี่พริมที่ช่วยอธิบาย ขอบคุณพี่เอยที่ช่วยร้องเพลงเพราะๆ ขอบคุณพี่หมีที่ช่วยเล่นกีตาร์เพราะๆ ขอบคุณพี่ๆทุกท่านค่ะ ความสุขมันจะอยู่กับเราตลอด ไม่มีวันจะจากเราไปไหน ขอให้ครอบครัวทุกคนมีความสุข สุขภาพแข็งแรงนะคะ”

เบลล์:
“วันนี้เบลล์มีความสุขมาก ชอบเพื่อน ชอบพี่ทุกคน ขอให้มีสุขภาพดี แข็งแรงตลอดไป”

คุณแม่น้องแยม:
“อยากขอบคุณทีมงานทุกคน โดยเฉพาะคุณกช คุณพริม คุณเอย คุณหมี ฯลฯ พวกคุณแน่มาก จิตใจเยี่ยมมากๆ รู้สึกเห็นใจทีมงานมากๆที่ทำงานกันอย่างเต็มใจ แม้ว่าบางครั้งบรรดาผู้เข้าเรียนรู้อาจมรความจำเป็นและความยุ่งยากกับปัญหาในการครองชีพ ทำให้ละเลยประโยชน์ที่ตนเองได้รับ”

แยม:
“ขอให้ทุกคนที่นี้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บแบบแยม ต้องสู้ต่อไป ถ้าไม่สู้แล้วจะเอาอะไรกินนะคะ บางคนก็ต้องสู้ บางคนก็ไม่สู้ แยมขอให้ทุกคนสู้ต่อไป เข้าใจนะคะ ปีหน้าฟ้าใหม่เรามาเจอกันใหม่นะคะพี่ๆ แยมรักทุกคนที่นี่”

ยิม:
“รักพี่ๆ คิดถึง”

พี่เจี๊ยบ:
“เมื่อการเดินทางมาถึงจุดหมายก็คงเหมือน “มีพบก็มีการจากลา” แต่การจากรั้งนี้ไม่ได้จากไปไหน ก็ยังจะอยู่ในใจและความทรงจำของเจี๊ยบว่าได้เดินทางมายังที่ที่นี้ ที่มีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆมาทำกิจกรรมต่างๆ เหมือนค่ายที่ให้ความรู้ ความสนุกสนานต่างๆนานา อยากบอกว่ารักและคิดถึงพี่ๆน้องๆและทีมงานทุกคน ไม่อยากจากลาเลย จะเก็บความทรงจำที่นี่ไว้ในใจเสมอค่ะ เพราะมีเรื่องราวดีๆได้ผ่านเข้ามา
ปล.อยากให้มีกิจกรรมดีๆอย่างนี้อีก เพราะอยากให้น้องๆเขาได้ใช้ศิลปะบำบัดนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวันของน้องๆทุกคน”


เคนโก:
“ศิลปะบำบัดช่วยให้มีกำลังใจมากขึ้น”

คุณแม่น้องเคนโก:
“ศิลปะบำบัดได้จุดประกายให้เรามีกำลังใจในการดำเนินชีวิต โดยการต่อสู้ที่จะมีชีวิตอยู่ในโลกใบนีอย่างมีความสุขและมีความหวังโดยไม่ย่อท้อ และอยากให้มีกิจกรรมนี้อีก”